แผนมุสลิมยึดประเทศไทย รีบอ่านก่อนโดนลบ
พระพุทธศาสนาในประเทศไทย กำลังถูกผลักไสให้เดินทางเข้าสู่ความเสื่อมสูญ .? ด้วยแผนการของมุสลิม
1. ในปี 2521 ดร.บุญสม มาร์ติน รมว.ศึกษาธิการ สั่งให้ตัดวิชาพระพุทธศาสนา และ วิชาศีลธรรมกับหน้าที่พลเมือง ออกไปจากหลักสูตรการศึกษาของประเทศไทย
2. ปี 2524 รัฐบาลเปรมฯ ออก พ.ร.บ.อิสลาม ในปี 2525 ออกกฎหมายเพื่อมุ่งให้ความคุ้มครองมุสลิมทั่วประเทศ
3. ปี 2532 รัฐบาลชาติชายฯ ขยายผลกฎหมายอิสลามอีกหลายมาตรา ทั้งให้ตัดวิชาประวัติศาสตร์ไทยออกไปจากหลักสูตรการศึกษาของประเทศไทย
4. ปี 2536 แต่งตั้งให้ผู้นำศาสนาอิสลาม นายอารีย์ วงศ์อารยะ เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย มีการออกกฎหมายใหม่ กำหนดให้คนไทยไม่ต้องแจ้งการนับถือศาสนาในทะเบียนบ้านและบัตรประชาชน พร้อมทั้ง เชิญชวนข้าราชการมุสลิม เปลี่ยนชื่อ-สกุลให้เป็นไทย เวลาแต่งตั้งให้มีตำแหน่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงการเพ่งเล็งของชาวไทยพุทธ
5. ปี 2537-2539 นายอานันท์ฯ ต่อต้าน.. “บัญญัติให้พุทธศาสนา เป็นศาสนาประจำชาติ ว่าเลือดจะนองท้องช้าง” ทั้งที่มีคนลงชื่อสนับสนุน 2 ล้าน 3 แสนคน??
6. ปี 2540 นายวัน มูฮะหมัดฯ รมต.ว่าการกระทรวงมหาดไทยในสมัยนั้น สั่งกำจัดพระพุทธรูปออกจากห้องประชุมกระทรวงฯ และแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.อิสลาม อีกหลายมาตรา เช่น จุฬาราชมนตรีมีอำนาจเหนือนายกรัฐมนตรีไทย
7. ปี 2542 ประเทศไทยมีประธานกรรมาธิการศาสนาฯ ชื่อ เด่น โต๊ะมีนา เข้ามาเพื่อออกกฎหมาย “ล้วงย่ามพระ” และ “ฆราวาสปกครองพระ” ในรัฐบาลชวน
8. พ.ร.บ. ปฏิรูปการศึกษา ที่คนไทยหลงดีใจว่า ลูกหลานจะฉลาดขึ้นนั้นเกิดจากน้ำมือของคริสต์-อิสลามร่วมมือกันเขียนขึ้นมา ประธาน คือ ดร. กีรติฯ (คาทอลิค) รองประธาน คือ ดร. เกษมฯ (อิสลาม) เจตนาที่แท้จริง คือ กำจัดพุทธศาสนทายาทออกไป เนื่องจากเด็กจบ ป. 6 มีโอกาสบวชยาวมากกว่าเด็กจบ ม. 3 ผ.อ.ทุกโรงเรียน ให้ความร่วมมือดี เพราะได้ประโยชน์จากตำแหน่งและงบประมาณที่เพิ่มขึ้น ตามสึกสามเณรมาเข้าโรงเรียน สามเณรจึงหายไปกว่า 90%
9. ปี 2545 พ.ร.บ.ธนาคารอิสลาม เกิดขึ้นด้วยเงินงบประมาณกว่า 1000 ล้านบาท การดำเนินงานขาดทุนทุกปี จนในที่สุด ต้องยุบเลิกธนาคารชาริอะห์ ของธนาคารกรุงไทย ที่มีกำไร เพราะธนาคารกรุงไทยดูแลอย่างใกล้ชิด และ ใช้งบประมาณสนับสนุนจำนวนมาก เพื่อมาควบรวมกับธนาคารอิสลามเหลือเพียงธนาคารอิสลามฯเพียงแห่งเดียวในปัจจุบัน
10. “Time” หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของโลก เปิดโปงแผน Dream State ที่อิสลามหวังยึดครองประเทศไทย โดยรุกทางการเมืองจากภาคใต้ ขยายผลให้มีการเลือกพรรคของตนใน กทม. และภาคตะวันออก โดยสนับสนุนการเงินผ่านธนาคารอิสลาม
11. เมื่อ 3 ม.ค. 2547 การปล้นอาวุธจากกองทัพได้เกิดขึ้น ขบวนการล่าหัวชาวพุทธเกิดตามมาอย่างถี่ยิบ ทั้งครู ตำรวจ ทหาร ประชาชน แม้แต่พระสงฆ์สามเณร ถูกฆ่าตายรายวันอย่างทารุณ รวมทั้งชาวไทยมุสลิมที่ไม่ช่วยส่งเสริมผู้ก่อการร้าย หรือ ไม่ช่วยก่อความไม่สงบ ก็จะถูกฆ่าตายไปในคราวเดียวกันนี้ด้วย มีการก่อวินาศกรรมทุกพื้นที่ ทั้งโรงเรียนและหมู่บ้านชาวพุทธถูกเผาเป็นว่าเล่น และได้ปล่อยตัวผู้ก่อการร้ายส่วนใหญ่ และฟื้น ศอ.บต. 2
12. ในวันที่ 19 ก.ย. 2549 พลเอกสนธิฯ ซึ่งเป็นมุสลิมคนหนึ่ง ปฏิวัติยึดอำนาจ ได้ทำการแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดที่เป็นมุสลิมจำนวน 39 จังหวัด และแต่งตั้งกรรมาธิการศาสนา 11 คน เป็นคนมุสลิม 8 คน จากกรรมาธิการทั้งหมด 11 คน
13. การขยายมัสยิสไปทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ทุกตำบล ที่ต้องทำให้เสร็จภายในปี 2557 ทุกอย่างเป็นไปตามเป้าเร็วเกินคาดมีผู้ให้ความร่วมมือมากขึ้นในทุกภูมิภาค ทั้งกลุ่มเสื้อแดง - เหลือง - น้ำเงิน ก็ถือโอกาสเพื่อได้แนวร่วม
มี พ.ร.บ.ปกครองสงฆ์มาตรา 29 ให้อำนาจนายอำเภอจับพระสึกได้อีกชั้นหนึ่ง เนื่องจากมีนายอำเภอมุสลิมนับร้อย พร้อมใช้อำนาจนี้แล้ว
14. กฎหมายอิสลามอีกหลายๆ ฉบับ ตบเท้าทยอยกันออกมาอย่างรวดเร็ว เช่น
- พ.ร.บ.บริหารองค์กรอิสลาม
- พ.ร.บ. กิจการฮัจย์
- พ.ร.บ. อาหารฮาลาล พ.ร.บ.ปัตตานีมหานคร ที่ขยายผลมาจาก ศอ.บต. 2 รวม 5 จังหวัด ภายใต้นโยบายการปกครอง
พิเศษตามระบบอิสลาม
- พ.ร.บ.การเงินชุมชนในระบบอิสลาม (Islam Micro Credit)
- พ.ร.บ.ครอบครัวและมรดกระบบอิสลาม
- พ.ร.บ.การจัดตั้งสภาซูรอ
- พ.ร.บ.การจัดตั้งศาลชารีอะห์ ซึ่งใช้บังคับคนไทยทุกคนที่เกิดคดีความกับมุสลิมนับเป็นการกระทำที่เตรียมยกระดับไทย ขึ้นเป็นประเทศอิสลาม ถึงกับมีการตั้งชื่อประเทศ “สยามมุสลิม” ที่พร้อมประกาศใช้ในอนาคต ฯลฯ
15. เม็ดเงินหลายหมื่นล้านบาท โอนผ่านธนาคารอิสลาม เพื่อใช้ซื้อที่ดินนับล้านๆ ไร่ ในทุกภูมิภาคของไทย หลายพื้นที่กำลังเร่งรีบปลูกยางพาราและข้าวบทความของ อ.มงคล กริชติทายาวุธ เรื่องที่ 892 กระบวนการทำลายพุทธศาสนาในประเทศไทย จน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ผ.อ.ดีเอสไอ ตรวจสอบพบและแถลงข่าวผ่านหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 4 ส.ค. 2552 ถึงกับถูกย้ายทันที
16. จัดตั้งพรรคการเมืองอิสลาม มีกรรมการบริหารพรรคชาวพุทธร่วมด้วย โดยมุ่งกลืนชาติไทยอย่างเลือดเย็น เพียงเห็นแก่เม็ดเงินที่โอนผ่านธนาคารอิสลามจำนวนมาก เช่น เดียวกับบางพรรค รับเงินไป แล้วกว่า 2 หมื่นล้านบาท??
17. มีการอพยพมุสลิมจากอาเจะ-อินโดนีเซีย จำนวนนับล้านคน กระจายเข้าไปอยู่ทุกจังหวัดเพื่อทำตามแผนการ พ.ร.บ. การเงินชุมชนอิสลาม ที่มุสลิมเท่านั้นมีอำนาจบริหารจัดการ โดยคนไทยอาจเป็นสมาชิกได้ ภายใต้กฎกติกาของเขา ซึ่งอาจต้อง เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลามในโอกาสต่อไป เราจึงเห็นมัสยิตผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ในทุกจังหวัด ด้วยเงินงบประมาณของชาวพุทธ ดังที่นายดำรง พุฒตาล นำมาแถลงในรายการโทรทัศน์
18. หลายจังหวัดที่มีผู้ว่า-นายอำเภอมุสลิม ให้ชาวมุสลิมเช่าวัดร้างนับแสนไร่ เพื่อปลูกยาง พาราหรือสร้างมัสยิดได้ 30 ปี เพื่อรอยึดหรือบีบซื้อถูกๆ แบบที่เคยทำได้มาแล้ว
จากข้อมูล นับเป็นเรื่องน่าเศร้ามากๆ แผนมุสลิมยึดครองประเทศ หากวันนี้พวกเราชาวไทยพุทธ ยังคงหนิ่งดูดาย ไม่พาตัวเองและเชิญชวนคนที่คุณรักเข้าวัด ไปดูแลวัดใกล้บ้านหรือวัดที่คุณรัก อีกหน่อยวัดก็จะกลายเป็นวัดร้าง มีมัสยิด เกิดขึ้นมาแทนวัดในทุกจังหวัด ในฐานะพวกเราชาวพุทธ อย่าให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ในยุคของเราเลย รู้สึกมันเสียชาติเกิด พระพุทธศานา จะต้องเจริญรุ่งเรือง มั่นคงยิ่งๆขึ้นไปในยุคที่เรามาเกิด จะต้องอยู่คู่คนไทยตลอดอนัตกาล
1. ในปี 2521 ดร.บุญสม มาร์ติน รมว.ศึกษาธิการ สั่งให้ตัดวิชาพระพุทธศาสนา และ วิชาศีลธรรมกับหน้าที่พลเมือง ออกไปจากหลักสูตรการศึกษาของประเทศไทย
2. ปี 2524 รัฐบาลเปรมฯ ออก พ.ร.บ.อิสลาม ในปี 2525 ออกกฎหมายเพื่อมุ่งให้ความคุ้มครองมุสลิมทั่วประเทศ
3. ปี 2532 รัฐบาลชาติชายฯ ขยายผลกฎหมายอิสลามอีกหลายมาตรา ทั้งให้ตัดวิชาประวัติศาสตร์ไทยออกไปจากหลักสูตรการศึกษาของประเทศไทย
4. ปี 2536 แต่งตั้งให้ผู้นำศาสนาอิสลาม นายอารีย์ วงศ์อารยะ เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย มีการออกกฎหมายใหม่ กำหนดให้คนไทยไม่ต้องแจ้งการนับถือศาสนาในทะเบียนบ้านและบัตรประชาชน พร้อมทั้ง เชิญชวนข้าราชการมุสลิม เปลี่ยนชื่อ-สกุลให้เป็นไทย เวลาแต่งตั้งให้มีตำแหน่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงการเพ่งเล็งของชาวไทยพุทธ
5. ปี 2537-2539 นายอานันท์ฯ ต่อต้าน.. “บัญญัติให้พุทธศาสนา เป็นศาสนาประจำชาติ ว่าเลือดจะนองท้องช้าง” ทั้งที่มีคนลงชื่อสนับสนุน 2 ล้าน 3 แสนคน??
6. ปี 2540 นายวัน มูฮะหมัดฯ รมต.ว่าการกระทรวงมหาดไทยในสมัยนั้น สั่งกำจัดพระพุทธรูปออกจากห้องประชุมกระทรวงฯ และแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.อิสลาม อีกหลายมาตรา เช่น จุฬาราชมนตรีมีอำนาจเหนือนายกรัฐมนตรีไทย
7. ปี 2542 ประเทศไทยมีประธานกรรมาธิการศาสนาฯ ชื่อ เด่น โต๊ะมีนา เข้ามาเพื่อออกกฎหมาย “ล้วงย่ามพระ” และ “ฆราวาสปกครองพระ” ในรัฐบาลชวน
8. พ.ร.บ. ปฏิรูปการศึกษา ที่คนไทยหลงดีใจว่า ลูกหลานจะฉลาดขึ้นนั้นเกิดจากน้ำมือของคริสต์-อิสลามร่วมมือกันเขียนขึ้นมา ประธาน คือ ดร. กีรติฯ (คาทอลิค) รองประธาน คือ ดร. เกษมฯ (อิสลาม) เจตนาที่แท้จริง คือ กำจัดพุทธศาสนทายาทออกไป เนื่องจากเด็กจบ ป. 6 มีโอกาสบวชยาวมากกว่าเด็กจบ ม. 3 ผ.อ.ทุกโรงเรียน ให้ความร่วมมือดี เพราะได้ประโยชน์จากตำแหน่งและงบประมาณที่เพิ่มขึ้น ตามสึกสามเณรมาเข้าโรงเรียน สามเณรจึงหายไปกว่า 90%
9. ปี 2545 พ.ร.บ.ธนาคารอิสลาม เกิดขึ้นด้วยเงินงบประมาณกว่า 1000 ล้านบาท การดำเนินงานขาดทุนทุกปี จนในที่สุด ต้องยุบเลิกธนาคารชาริอะห์ ของธนาคารกรุงไทย ที่มีกำไร เพราะธนาคารกรุงไทยดูแลอย่างใกล้ชิด และ ใช้งบประมาณสนับสนุนจำนวนมาก เพื่อมาควบรวมกับธนาคารอิสลามเหลือเพียงธนาคารอิสลามฯเพียงแห่งเดียวในปัจจุบัน
10. “Time” หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของโลก เปิดโปงแผน Dream State ที่อิสลามหวังยึดครองประเทศไทย โดยรุกทางการเมืองจากภาคใต้ ขยายผลให้มีการเลือกพรรคของตนใน กทม. และภาคตะวันออก โดยสนับสนุนการเงินผ่านธนาคารอิสลาม
11. เมื่อ 3 ม.ค. 2547 การปล้นอาวุธจากกองทัพได้เกิดขึ้น ขบวนการล่าหัวชาวพุทธเกิดตามมาอย่างถี่ยิบ ทั้งครู ตำรวจ ทหาร ประชาชน แม้แต่พระสงฆ์สามเณร ถูกฆ่าตายรายวันอย่างทารุณ รวมทั้งชาวไทยมุสลิมที่ไม่ช่วยส่งเสริมผู้ก่อการร้าย หรือ ไม่ช่วยก่อความไม่สงบ ก็จะถูกฆ่าตายไปในคราวเดียวกันนี้ด้วย มีการก่อวินาศกรรมทุกพื้นที่ ทั้งโรงเรียนและหมู่บ้านชาวพุทธถูกเผาเป็นว่าเล่น และได้ปล่อยตัวผู้ก่อการร้ายส่วนใหญ่ และฟื้น ศอ.บต. 2
12. ในวันที่ 19 ก.ย. 2549 พลเอกสนธิฯ ซึ่งเป็นมุสลิมคนหนึ่ง ปฏิวัติยึดอำนาจ ได้ทำการแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดที่เป็นมุสลิมจำนวน 39 จังหวัด และแต่งตั้งกรรมาธิการศาสนา 11 คน เป็นคนมุสลิม 8 คน จากกรรมาธิการทั้งหมด 11 คน
13. การขยายมัสยิสไปทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ทุกตำบล ที่ต้องทำให้เสร็จภายในปี 2557 ทุกอย่างเป็นไปตามเป้าเร็วเกินคาดมีผู้ให้ความร่วมมือมากขึ้นในทุกภูมิภาค ทั้งกลุ่มเสื้อแดง - เหลือง - น้ำเงิน ก็ถือโอกาสเพื่อได้แนวร่วม
มี พ.ร.บ.ปกครองสงฆ์มาตรา 29 ให้อำนาจนายอำเภอจับพระสึกได้อีกชั้นหนึ่ง เนื่องจากมีนายอำเภอมุสลิมนับร้อย พร้อมใช้อำนาจนี้แล้ว
14. กฎหมายอิสลามอีกหลายๆ ฉบับ ตบเท้าทยอยกันออกมาอย่างรวดเร็ว เช่น
- พ.ร.บ.บริหารองค์กรอิสลาม
- พ.ร.บ. กิจการฮัจย์
- พ.ร.บ. อาหารฮาลาล พ.ร.บ.ปัตตานีมหานคร ที่ขยายผลมาจาก ศอ.บต. 2 รวม 5 จังหวัด ภายใต้นโยบายการปกครอง
พิเศษตามระบบอิสลาม
- พ.ร.บ.การเงินชุมชนในระบบอิสลาม (Islam Micro Credit)
- พ.ร.บ.ครอบครัวและมรดกระบบอิสลาม
- พ.ร.บ.การจัดตั้งสภาซูรอ
- พ.ร.บ.การจัดตั้งศาลชารีอะห์ ซึ่งใช้บังคับคนไทยทุกคนที่เกิดคดีความกับมุสลิมนับเป็นการกระทำที่เตรียมยกระดับไทย ขึ้นเป็นประเทศอิสลาม ถึงกับมีการตั้งชื่อประเทศ “สยามมุสลิม” ที่พร้อมประกาศใช้ในอนาคต ฯลฯ
15. เม็ดเงินหลายหมื่นล้านบาท โอนผ่านธนาคารอิสลาม เพื่อใช้ซื้อที่ดินนับล้านๆ ไร่ ในทุกภูมิภาคของไทย หลายพื้นที่กำลังเร่งรีบปลูกยางพาราและข้าวบทความของ อ.มงคล กริชติทายาวุธ เรื่องที่ 892 กระบวนการทำลายพุทธศาสนาในประเทศไทย จน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ผ.อ.ดีเอสไอ ตรวจสอบพบและแถลงข่าวผ่านหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 4 ส.ค. 2552 ถึงกับถูกย้ายทันที
16. จัดตั้งพรรคการเมืองอิสลาม มีกรรมการบริหารพรรคชาวพุทธร่วมด้วย โดยมุ่งกลืนชาติไทยอย่างเลือดเย็น เพียงเห็นแก่เม็ดเงินที่โอนผ่านธนาคารอิสลามจำนวนมาก เช่น เดียวกับบางพรรค รับเงินไป แล้วกว่า 2 หมื่นล้านบาท??
17. มีการอพยพมุสลิมจากอาเจะ-อินโดนีเซีย จำนวนนับล้านคน กระจายเข้าไปอยู่ทุกจังหวัดเพื่อทำตามแผนการ พ.ร.บ. การเงินชุมชนอิสลาม ที่มุสลิมเท่านั้นมีอำนาจบริหารจัดการ โดยคนไทยอาจเป็นสมาชิกได้ ภายใต้กฎกติกาของเขา ซึ่งอาจต้อง เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลามในโอกาสต่อไป เราจึงเห็นมัสยิตผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ในทุกจังหวัด ด้วยเงินงบประมาณของชาวพุทธ ดังที่นายดำรง พุฒตาล นำมาแถลงในรายการโทรทัศน์
18. หลายจังหวัดที่มีผู้ว่า-นายอำเภอมุสลิม ให้ชาวมุสลิมเช่าวัดร้างนับแสนไร่ เพื่อปลูกยาง พาราหรือสร้างมัสยิดได้ 30 ปี เพื่อรอยึดหรือบีบซื้อถูกๆ แบบที่เคยทำได้มาแล้ว
|
จากข้อมูล นับเป็นเรื่องน่าเศร้ามากๆ แผนมุสลิมยึดครองประเทศ หากวันนี้พวกเราชาวไทยพุทธ ยังคงหนิ่งดูดาย ไม่พาตัวเองและเชิญชวนคนที่คุณรักเข้าวัด ไปดูแลวัดใกล้บ้านหรือวัดที่คุณรัก อีกหน่อยวัดก็จะกลายเป็นวัดร้าง มีมัสยิด เกิดขึ้นมาแทนวัดในทุกจังหวัด ในฐานะพวกเราชาวพุทธ อย่าให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ในยุคของเราเลย รู้สึกมันเสียชาติเกิด พระพุทธศานา จะต้องเจริญรุ่งเรือง มั่นคงยิ่งๆขึ้นไปในยุคที่เรามาเกิด จะต้องอยู่คู่คนไทยตลอดอนัตกาล
แผนมุสลิมยึดประเทศไทย รีบอ่านก่อนโดนลบ
Reviewed by ข่าวพิเศษ
on
20:01
Rating:
ไม่เคยรู้มาก่อนเลยครับ ขอบคุณที่ให้ข้อมูลคราับ
ตอบลบแปลกใจที่ไม่เคยมีชาวพุทธประท้วงให้ปิดโรงงานผลิตเหล้าบุหรี่ เพราะผิดศีล5 แต่กลับออกมาประท้วงไม่ให้สร้างมัสยิด และประท้วงฮาลาล ทั้งๆที่พระพุทธเจ้าก็ไม่ได้สอนให้ทำ
ตอบลบเหล้า บุหรี่.. ผิดข้อห้ามจองอิสลาม ทำไมไม่ประท้วงปิดโรงงานครับ
ลบถ้าอิสลามไม่เจ้าเล่ห์ เห็นแก่ตัว สร้างศาสนสถานของตนด้วยเงินของตนเอง ไม่ใช้เล่ห์ร้าย เอางบประมาณของส่วนรวมไปสร้าง และไม่ต่อต้านผู้อื่น ไม่สร้างความรำคาญให้ผู้อื่น ..ก็คงไม่มีใครต่อต้านหรอก..
แปลกใจที่ไม่เคยมีชาวพุทธประท้วงให้ปิดโรงงานผลิตเหล้าบุหรี่ เพราะผิดศีล5 แต่กลับออกมาประท้วงไม่ให้สร้างมัสยิด และประท้วงฮาลาล ทั้งๆที่พระพุทธเจ้าก็ไม่ได้สอนให้ทำ
ตอบลบมุสซี่จะยึดโลกจ้า
ลบตอบChocoMaro แต่ฉันแปลกใจ ที่อิสลาม อย่างคุณ รังเกียจ บุหรี่ เหล้า หมู หมา แต่ไม่รังเกียจเงิน ที่ได้มาจากสิ่งเหล่านี้ แปลกใจที่คุณ มาบอกว่าสิ่งเหล่านี้ผิด ศีลแต่ไม่ ปิดทำการสิ่งพวกนี้ เรา ว่ามันผิดศีล ไช่แต่เราก็รู้ว่าสิ่งเหล่านี้ คือ มีส่วนเลี้ยง คนในประเทศไทยทั้งหมด และรวมพวกที่ ได้เรียน ได้โต ได้ความรู้ ก็มาจากเงิน จากเหล่านนี้ แต่ คุณ เป็นคนมาบอกว่า ไม่ดีทำไมไม่ทำลาย ถามหน่อย ก็จะเนรคุณขนาดนั้นเหรอ แล้วคุณละ เมื่อสิ่งเหล่านี้ไม่ดี มีในประเทศนี้ อล้วคุณ ดันเกิดในประเทศนี้ทำไม? รักชอบแบบแขกทำไม?ไม่ไปเกิดกับ ประเทศแขกละ จะได้ไม่ต้องเปลือง ภาษีเผื่อแผ่ ถ้ามีโอกาส เกิดอีกครั้งรบกวน ไปเกด ที่ประเทศที่มีแต่ทะเลทราย ด้วย นะจะ
ลบแต่ไม่เคยแปลกใจเลยว่าทำไมหลายๆคน หรือ ประเทศ บนโลกนี้ ไม่ชอบ รังเกียจ เเละ ต่อต้านมุสลิม
ตอบลบมัสลิมดีๆกะมีเยอะ แต่ไม่สามารถยับยั้งมุสลิหัวรุนแรงได้เลยทั้งๆที่ตัวเองกะไม่ชอบ ไม่เห็นด้วยเลยกะตาม
ตอบลบถ้าศาสนาคิดดีทำดีเขาไม่ไละเมิดกฎของประเทศซึ่งเป็นคนส่วนมากเขานับถืออยู่..
ตอบลบความเป็นมาของวัดเชตวัน
ตอบลบประวัติวัดพระเชตวัน กล่าวคือ มีเศรษฐีคนหนึ่งนามว่าสุทัตตะ ได้พบกับพระพุทธเจ้าที่ป่าสีตวัน ได้ฟังพระธรรมเทศนา จนได้บรรลุโสดาปัตติผล เกิดความเลื่อมใสศรัทธาในพุทธธรรม ปรารถนาจะสร้างอารามขึ้นในเมืองสาวัตถีเพื่อเป็น ที่ประทับของพระพุทธเจ้าและพระภิกษุสงฆ์ จักได้มาโปรดชาวเมืองสาวัตถีบ้าง
ท่านเศรษฐีสุทัตตะหรืออีกนามหนึ่งคืออนาถบิณฑิกเศรษฐี ผู้ให้ทานแก่คนยากไร้ ได้เห็นว่าสวนของเจ้าเชต อยู่ทางสาวัตถีตอนใต้ มีบรรยากาศน่ารื่นรมย์ เหมาะจะสร้างเป็นสังฆาราม จึงได้ไปทูลขอซื้อที่สวนของเจ้าเชต เจ้าเชตทำท่าจะไม่ยอมขาย พูดแบบไม่ยอมขายว่า "ถ้าจะซื้อก็เอาเงินมาปูทั้งสวนนี้ให้เต็ม" โดยไม่คิดว่า อนาถบิณฑิกเศรษฐี จะทำเช่นนั้นจริงๆ ท่านได้ขนเอาเงินมาปูเป็นจำนวนหลายสิบโกฏิ เจ้าเชตเห็นแล้วรู้สึกเลื่อมใส จึงได้ยอมลดราคาให้เหลือเพียง 18 โกฏิ และขอร่วมบุญด้วย ท่านอนาถบิณฑิกจึงขอให้สร้างซุ้มประตูวัด และนำเอานามของเจ้าเชตมาเป็นชื่อพระวิหาร คือ พระวิหารเชตวัน สรุปรวมค่าที่ดิน 18 โกฏิ ค่าสร้างมหาวิหาร อาราม กุฏิ อีก 18 โกฏิ ทำการฉลองพระวิหารอีก 18 โกฏิ รวมทั้งสิ้น 54 โกฏิ
พระเชตวันครั้งพุทธกาล
พระพุทธเจ้าทรงประทับในกรุงสาวัตถีถึง 25 พรรษา พระวิหารเชตวันเป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้าอยู่ถึง 19 พรรษา (อีก 6 พรรษา ประทับที่บุพพารามวิหารซึ่งนางวิสาขาสร้างถวาย) เกิดเหตุการณ์มากมายทั้งดีและร้าย เพราะการที่ พระพุทธเจ้า มาประทับที่กรุงสาวัตถีนี้ ทำให้พวกเดียรถีย์บางลัทธิไม่พอใจ ได้หาทางทำลายชื่อเสียงของพระพุทธเจ้า บางครั้งจึงเกิดเรื่องการใส่ร้ายปาสี ครั้งหนึ่ง เดียรถีย์พวกหนึ่งให้สาวิกาของตน คือนางจิญจมาณวิกา มาใส่ร้ายพระพุทธองค์ แกล้งทำเป็นเดินเข้าวิหารเชตวันในตอนเย็น เดินออกจากวิหารเชตวันตอนเช้า ให้คนสงสัย ต่อมาครบ 9 เดือนก็เอาไม้มาคลุมท้องแล้วก็โพนทะนาว่า ตนเองเป็นผู้ร่วมอภิรมย์กับพระพุทธเจ้า ซึ่งเรียกว่าเป็นแผนนารีพิฆาตจริงๆ แต่แผนนี้ก็มาแตก เพราะนางได้ไปด่าว่าพระพุทธเจ้าขณะที่พระองค์ทรงแสดงธรรม เกิดดิ้นพร่านมากไป จนไม้หลุดลงมา (บางแห่งแสดงว่า พระอินทร์ให้เทพบุตรแปลงเป็นหนูมากัดเชือกให้ไม้หลุด) จนคนเห็นความจริง ต่างขับไล่นางออกไปจากพระวิหาร เพราะบังอาจมาใส่ร้ายพระพุทธเจ้าพอออกไปพ้นวิหารก็ถูกแผ่นดินสูบเพราะกรรมอันหนัก ไปอุบัติในอเวจีมหานรก
ครั้งหนึ่ง ในสมัยแรกๆที่พระเจ้าปเสนทิโกศลยังไม่มั่นคงในพระพุทธศาสนา พวกเดียรถีย์เห็นว่าที่ใกล้วัดเชตวันเป็นทำเลดี คนมาทำบุญกับพระพุทธเจ้ามาก น่าจะสร้างอารามของตนบ้าง เผื่อจะได้มีคนมาทำบุญกับพวกตนบ้าง โดยไปติด สินบนพระเจ้าปเสนทิโกศล ขอให้พระราชทานที่ให้และหากพวกพระสมณโคดม มาเข้าเฝ้าก็อย่าให้เข้าพบ พระพุทธเจ้าทรงสดับเสียงก่อสร้าง จึงตรัสถามพระอานนท์ พระอานนท์ทูลว่า เป็นเสียงของพวกเดียรถีย์ จะมาสร้างอารามข้างๆพระวิหาร เชตวัน
พระพุทธเจ้าตรัสว่า บุคคลพวกนี้เป็นศัตรูกับพระศาสนา พระสงฆ์อาจจะถูกเบียดเบียนทำให้เดือดร้อน จึงให้พระอานนท์ไปเข้าเฝ้าพระเจ้าปเสนทิโกศล ให้พวกนี้ย้ายไปสร้างที่อื่น แต่พระเจ้าปเสนทิโกศลก็ไม่ยอมให้ พระอานนท์เข้าพบ พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะไป พระเจ้าปเสนทิโกศลก็ไม่ให้เข้าพบ พระบรมศาสดาจึงเสด็จไป โดยพระองค์เองพร้อมกับหมู่ภิกษุเรียกว่า เป็นครั้งแรกที่พระองค์ทรงเสด็จไปประท้วง เมื่อไปถึงพระราชาเองก็เกรงพระทัย จึงได้ทูลเชิญให้พระองค์กับหมู่ภิกษุมาฉันในนิเวศน์
พระพุทธเจ้าเมื่อเสวยพระกระยาหารเสร็จ ไม่ตรัสเลยว่าพระเจ้าปเสนทิโกศลทำเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น แต่ตรัสเรื่องในอดีตกาล ว่าสมัยหนึ่งพระเจ้าแคว้นภุรุ ทรงรับสินบนจากพวกนักบวชกลุ่มหนึ่งและลำเอียงเข้าข้าง ทำให้นักบวชอีกกลุ่มหนึ่งได้รับความลำบาก เพราะความทุศีลและเพราะกรรมที่ทำให้ผู้มีศีลทะเลาะกัน ได้รับความลำบาก ทำให้เมืองทั้งเมืองต้องจมอยู่ในทะเล
พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงทราบ ก็รู้ว่าตนทำความผิดอย่างใหญ่หลวงไปเสียแล้ว จึงได้รับสั่งให้พวกเดียรถีย์ขนย้ายไปอยู่ที่อื่น ส่วนพื้นที่นั้นทรงสร้างเป็นอารามอุทิศให้เป็นที่อยู่ของภิกษุณีสงฆ์
ผมคนหนึ่งก็ไม่ต่อต้านหรอกนะเป็นสิทธิที่พวกมีอำนาจที่จะทำได้เราก็เพียงเป็นมดตัวเล็กๆเท่านั้นแต่ก็ดูมันไปเพราะผมเองก็เติบใหญ่จนอายุจะ 70 อยู่แล้วผมก็มาจากวัดครับเพราะผมเรียนจบ ป4.พ่อผมก็เอาไปฝากพระเจ้าอาวาสที่วัดผมเรียนหนังสือกับวัดมาก่อนผมจะออกมาจากวัดมามีหลักมีฐานอยู่ทุกๆวันนี้ผมก็ได้ร่ำเรียนรู้ระเบียบวัติปฎิบัติมาจากพระธรรม-วินัยของศาสนาทั้งนั้นแหละครับผมก็จบ นธ.เอก ปี พศ.๒๕๑๐ ครับสมัยนั้นทั้งจังหวัดผมสอบได้ทั้ง พระ-สามเณร(ตัวผมเป็นสามเณรครับ)ถ้าคุยต่อก็อีกยาวครับเรื่องขอจบก่อนครับจากนั้นมาจนบัดนี้ผมก็เฝ้าดูพวกผุ็มีอำนาจทำมากี่ปีแล้วอีก2ปีผมก็ 70 ปีแล้วครับอายุแทนที่บ่านเมือง-ประเทศเราจะไปไกลกว่านี้นะกับถอยหลังครับวันหน้าถ้ามีโอกาสจะบรรยายอีกหรือถ้าท่านผู้ใด(ผู้มีอำนาจ)อยากจะไปพบผมๆก็พร้อมจะบรรยายเรื่องบ้านเมือง-ศาสนาได้ทุกรสครับวันนี้ขอจบเพียงเท่านี้ก่อนครับขอบคุณครับที่อ่านข้อความนี้จบนะครับ
ตอบลบคนไทยรุ่นหลังไม่รู้เรื่องพุทธศาสนาเลย คริสต์ อิสลามเขาร่วมมือกันวางแผนมานานเพื่อทำลายพุทธศาสนา
ตอบลบใช่
ตอบลบคนไทยควรไล่ลุกฮือไล่พวกอิสลามออกจากพื้นที่ไม่งั้นก็ควรเผามัสยิดทำรายพวกอิสลามทุกคน ทำลายครอบครัวมันและบังคับมันออกจากไทยอย่างเด็ดขาดศาสนาแห่งความชั่วร้ายคืออิสลาม
ตอบลบข้อมูลคลาดเคลื่อน ขอแก้ไขบางส่วนดังนี้ – โปรดตรวจสอบ
ตอบลบรัฐบาลเกรียงศักดิ์ฯ (พ.ศ. 2520 - พ.ศ. 2523) นายแพทย์บุญสม มาร์ติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาสั่งตัดวิชาพระพุทธศาสนา และ วิชาศีลธรรมกับหน้าที่พลเมือง ออกไปจากหลักสูตรการศึกษาของประเทศไทย
รัฐบาลเปรมฯ (มี.ค. 2523 - ส.ค. 2531) ออกกฎหมาย พรบ.ส่งเสริมการฮัจย์ พ.ศ. 2524
รัฐบาลชาติชายฯ (ส.ค. 2531 – ก.พ. 2534) สั่งตัดวิชาประวัติศาสตร์ไทยออกไปจากหลักสูตรการศึกษาของประเทศไทย
ปี 2552 หลังพระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ ์พระบรมราชินีนาถ วันที่ 11 สิงหาคม 2551 กระทรวงศึกษาได้เริ่มนำวิชาประวัติศาสตร์ไทยกลับเข้าหลักสูตรอีกครั้งหนึ่ง
รัฐบาลชวลิตยงใจยุทธ (พ.ย. 2539 – พ.ย. 2540) ออกกฎหมาย พรบ.การบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม พ.ศ.2540
รัฐบาลทักษิณ (ก.พ. 2544 – ก.ย. 2549 )- นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งให้ย้ายพระพุทธรูปประจำกระทรวงมหาดไทยออกจากห้องประชุมกระทรวงฯ เนื่องจากตนเองนับถือศาสนาอิสลาม และแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.อิสลาม อีกหลายมาตรา...
ทำไมเราคนไทยไม่ช่วยกันให้ประกาศศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ จะเกรงใจใครเราคนไทยที่มีบรรพบุรุษนับถือศานาพุทธทั้งนั้นที่ก่อตั้งประเทศไทย เสียเลือดเสียเนื้อรักษาประเทศไทย มุสลิมเพียงแค่คนอาศัย ยังบังอาจจะยึดประเทศไทย ชั่งไม่สำนึกบุญคุณแผ่นดินที่ให้อาศัยจริงๆๆ ขอต่อต้านอย่างสุดชีวิต
ตอบลบเรามีวิธีหนึ่งที่ใช้ได้คือทำให้มันไม่มีรายได้ชื้อกินของพุท
ตอบลบ